การทำงานในที่อับอากาศเป็นหนึ่งในงานที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เนื่องจากสถานที่เหล่านี้มีสภาพแวดล้อมที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของพนักงาน เช่น การขาดออกซิเจน การสะสมของก๊าซพิษ หรือความเสี่ยงจากการระเบิด ซึ่งในหลักสูตรตามกฎหมายจะออกแบบให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้การทำงานของ ที่อับอากาศ 4 ผู้ (ผู้อนุญาต, ผู้ช่วยเหลือ, ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ควบคุมงาน) หากถามว่าแล้วงานที่อับกาศต้องมีหัวหน้างานไหม
ต้องบอกเลยว่าหากกิจการของคุณจัดอยู่ในประเภทสถานประกอบการที่ต้องมี จป หัวหน้างาน ตามกฎหมาย นั้นไม่หมายความหัวหน้างาน ที่มีลูกน้องภายใต้บังคับบัญชาทุกคนในองค์กรต้องเข้าอบรม จป หัวหน้างาน ทำให้ทีมปฏิบัติงานในที่อับอากาศก้ต้องมี จป.หัวหน้างาน ดูแลการทำงานให้อยู่ในความปลอดภัย ลดจุดเสี่ยงในการปฏิบัติงานให้มากที่สุด
การทำงานในที่อับอากาศคืออะไร?
การทำงานในที่อับอากาศ (Confined Space) หมายถึง การทำงานในพื้นที่ที่มีการเข้าถึงจำกัด มีช่องระบายอากาศได้เล็กจนถึงไม่มีการระบายอากาศที่ดี เช่น ถังเก็บน้ำ ท่อระบายอากาศ ห้องใต้ดิน ท่อระบายน้ำ หรือบ่อเก็บน้ำเสีย สถานที่เหล่านี้มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอันตราย เนื่องจากมีการสะสมของสารเคมีที่เป็นพิษ ปริมาณออกซิเจนต่ำหรือมากเกินไป (มีปริมาณออกซิเจน (Oxygen) ต่ำกว่า 19.5% หรือมากกว่า 23.5%) หรือแก๊สไวไฟที่เสี่ยงต่อการระเบิด
อันตรายในการทำงานในที่อับอากาศ
การทำงานในที่อับอากาศมีความเสี่ยงต่อชีวิตและสุขภาพของพนักงาน อันตรายที่พบได้ทั่วไปในการทำงานในที่อับอากาศ ได้แก่:
- ขาดออกซิเจน: ออกซิเจนในที่อับอากาศอาจลดลงต่ำกว่าระดับที่ปลอดภัย ทำให้พนักงานมีอาการหายใจลำบาก หมดสติ หรือเสียชีวิต
- สะสมของก๊าซพิษ: ที่อับอากาศมักเป็นที่สะสมของก๊าซพิษ เช่น ไฮโดรเจนซัลไฟด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการระคายเคือง หายใจไม่ออก หรือพิษต่อระบบประสาท
- ระเบิด: ก๊าซที่ระเบิดได้ เช่น มีเทน อาจสะสมอยู่ในที่อับอากาศและทำให้เกิดการระเบิดเมื่อมีแหล่งจุดไฟ
- ตกหรือถล่ม: พื้นที่อับอากาศมักมีความเสี่ยงในการตกลงไปในพื้นที่ลึกหรือถล่มของวัสดุที่เก็บอยู่
ความสำคัญของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ระดับหัวหน้างาน
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ระดับหัวหน้างาน (จป. หัวหน้างาน) มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในที่อับอากาศ บทบาทและความสำคัญของพวกเขา ได้แก่:
1. ประเมินความเสี่ยงและการเตรียมความพร้อม
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ระดับหัวหน้างาน มีหน้าที่ในการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในที่อับอากาศ โดยจะต้อง:
- ตรวจสอบสถานที่ทำงาน: สำรวจและระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในที่อับอากาศ เช่น การตรวจสอบปริมาณออกซิเจน การระบุสารเคมีหรือก๊าซที่อาจเป็นอันตราย
- การเตรียมแผนการจัดการ: วางแผนการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิต การเตรียมแผนการอพยพ และการจัดตั้งทีมช่วยเหลือ
2. ฝึกอบรมและสร้างความเข้าใจให้กับพนักงาน
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ระดับหัวหน้างานต้องทำการฝึกอบรม ให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงในการทำงานในที่อับอากาศ และวิธีการป้องกันอันตรายให้กับพนักงาน:
- การฝึกอบรมเกี่ยวกับอุปกรณ์ความปลอดภัย: สอนพนักงานเกี่ยวกับการใช้และการบำรุงรักษาอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เครื่องตรวจวัดก๊าซ เครื่องช่วยหายใจ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)
- การเตรียมพนักงานให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน: สอนวิธีการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน การอพยพจากที่อับอากาศ และการให้การช่วยเหลือเบื้องต้น
3. ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ ความปลอดภัย
จป. หัวหน้างานต้องทำการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ใช้ในการทำงานในที่อับอากาศ:
- การตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนการใช้งาน: ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ทุกชนิดอยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งาน เช่น การตรวจสอบปริมาณออกซิเจนและก๊าซพิษ การตรวจสอบสภาพของเครื่องช่วยหายใจ
- การบำรุงรักษาอุปกรณ์: การบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การทดสอบอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
4. จัดการ และติดตามงาน
จป. หัวหน้างานต้องคอยติดตามและตรวจสอบการทำงานของพนักงานในที่อับอากาศอย่างใกล้ชิด:
- การตรวจสอบการปฏิบัติงาน: ตรวจสอบว่าพนักงานปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดหรือไม่ การติดตามการใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามขั้นตอนการทำงาน
- การแก้ไขปัญหา: การตอบสนองต่อปัญหา หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น การช่วยเหลือพนักงานที่ตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
5. จัดทำรายงาน
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับหัวหน้างานต้องจัดทำรายงานเกี่ยวกับความปลอดภัย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่อับอากาศ และส่งข้อมูลเหล่านี้กับผู้บริหาร:
- จัดทำรายงานความปลอดภัย: รายงานเกี่ยวกับความเสี่ยงและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การวิเคราะห์สาเหตุและการเสนอแนะมาตรการปรับปรุง
- สื่อสารกับผู้บริหาร: การสื่อสารข้อมูลความปลอดภัยและการปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยให้กับผู้บริหาร เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาปรับปรุงนโยบายความปลอดภัยขององค์กรต่อไป
มี จป หัวหน้างานในการทำงานที่อับอากาศดียังไง
- ป้องกันอุบัติเหตุ: การมีจป. หัวหน้างานช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บในสถานที่ทำงาน
- ลดความเสี่ยงทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงที่นายจ้างจะถูกลงโทษทางกฎหมาย
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: การมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความพึงพอใจในการทำงานของพนักงาน
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: การดูแลความปลอดภัยในสถานที่ทำงานช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้า
บทสรุป
การทำงานในที่อับอากาศเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงและต้องการการดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ทำให้ตำแหน่งานเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับหัวหน้างาน (จป. หัวหน้างาน) มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายในการทำงาน ให้กับพนักงานในองค์กร ซึ่งตำแหน่งหัวหน้างานนี้ คุณสามารถเป็นได้เมื่อคุณเป็น หัวหน้างานในองค์กร และทางองค์กรยินยอมส่งคุณเข้าอบรม จป หัวหน้างาน หลักสูตรนี้ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา จบ ม.6 ก็อบรมได้ และหากถามว่า จปหัวหน้างานต้องมีกี่คน ในองค์กร เราจะบอกว่า หัวหน้างาน ที่มีลูกน้องทุกคนในองค์กรต้องเข้าอบรมนั้นหมายความว่า มีหัวหน้างานกี่คน ก็ต้องมี จป หัวหน้างานเท่านั้น
หากคุณสนใจหลักสูตร จป. หัวหน้างาน สามารถอ่านรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่ : บริการอบรม จป หัวหน้างาน
สมัครวันนี้ลดทันที 40 %
ติดต่อได้ที่ : 091 – 887 – 5136